การใช้งาน Gadgets
แกดเจ็ตส์ (Gadgets) คือโปรแกรมเล็กๆที่สามารถนำมาวางไว้บนเดสก์ท็อปเพื่อใช้งานตามคุณสมบัติของโปรแกรมแกดเจ็ตส์นั้นๆ สำหรับระบบปฎิบัติการ Windows 7 ได้เตรียมแกดเจ็ตส์มาให้ส่วนหนึ่ง แต่ผู้ใช้ก็สามารถเลือกแกดเจ็ตส์ใหม่ๆ จากการดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ตมาใช้เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมแกดเจ็ตส์บางตัว จำเป็นต้องเชื่อมอินเทอร์เน็ตเพื่ออ่านค่าล่าสุดมาใช้งาน เช่น โปรแกรมตรวสสอบสภาพภูมิอากาศ และโปรแกรมแสดงค่าเงิน เป็นต้นขั้นตอนการเรียกใช้งานแกดเจ็ตส์
คลิกขวาที่เมาส์บนเดสก์ท็อปเลือกรายการ Gadgets
เลือกรายการแล้วกด Add
คอนโทรลพาเนล (Control Panel)
คอนโทรลพาเนล เปรียบเสมือนแผงควบคุมการทำงาน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของโปรแกรมสำคัญต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถเจ้าไปตั้งค่าและเรียกใช้งาน อีกทั้งภายในคอนดทรลพาเนลยังได้รับการจัดหมู่โปรแกรมต่างๆ อย่างมีระบบ เพื่อสร้างความสะดวกต่อผู้ใช้ในการที่จะเข้าไปใช้งาน และต่อไปนี้จะนำเสนอการใช้งานโปรแกรมบางส่วนภายในคอนโทรลพาเนลการตั้งวันที่และเวลา
เข้าไปที่ Control Panel คลิกที่ Clock
คลิกที่ปุ่ม Change date and time
ตรง Date สามารถใช้เมาส์คลิกเพื่อเปลี่ยนวันที่
ในการเปลี่ยนเวลา ให้ใช้เมาส์คลิกตรงตำแหน่งชั่วโมง:นาที:วินาที
การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์
การใช้คอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลทั้งสิ้น โดยข้อมูลหรือเอกสารสำคัญต่างๆ อาจถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมต่างๆ เช่น MS-Word, MS-Excel หหรือ MS-PowerPoint รวมถึงการป้อนข้อมูลธุรกรรมประจำวันผ่านตัวโปรแกรมเพื่อบันทึกลงในฐานข้อมูล ดังนั้น ภายในคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดดิสก์) ก็จะเต็มไปด้วยไฟล์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมระบบปฏิบัติการ และไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นจากตัวผู้ใช้เอง
หน้าต่างคอมพิวเตอร์ Computer (หรือเปิด Windows Explorer แล้วคลิกที่หัวข้อเมนู Computer) นอกจากนำาใช้จัดการไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆแล้ว ที่แถบเมนูยังมีการเตรียมปุ่มต่างๆ เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงและจัดการงานบางอย่าง เช่น
แถบเมนูบนหน้าต่าง This PC
ที่หน้าต่าง This PC จะพบฝั่งซ้าย จะแสดงทั้งโฟล์เดอร์และไดรฟ์
เมื่อคลิกหัวข้อ Quick acces จะเข้าสู่การจัดไฟล์บนโฟล์เดอร์ต่างๆ
Documents เป็นโฟลเดอร์ที่วินโดวส์สร้างขึ้นมา เพื่อจัดเก็บไฟล์เอกสารทั่วไป
Music เป็นโฟล์เดอร์ที่วินโดวส์สร้างขึ้นมา เพื่อจัดเก็บไฟล์เพลง
Pictures เป็นโฟล์เดอร์ที่วินโดวส์สร้างขึ้นมา เพื่อจัดเก็บไฟล์ภาพ
Videos เป็นโฟล์เดอร์ที่วินโดวส์สร้างขึ้นมา เพื่อจัดเก็บไฟล์วิดีโอ
แนวคิดการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์
แน่นอนว่า ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ภายในคอมพิวเตอร์ ย่อมมีอยู่มากมายหลายประเภท ซึ่งอยู่ลักษณะงานของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกัน แต่ละคนก็จะมีวิธีการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเหล่านั้นตามวิถีทางของตน โดยมิได้มีกฎเกณฑ์บังคับแต่อย่างใด แต่ถ้ามีการจัดหมวดหมู่ไฟล์อย่างเป็นระเบียบ มีการตั้งชื่อไฟล์ที่สื่อความหมาย ย่อมนำไปสู่การค้นหาหรือเรียกใช้งานไฟล์ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดนเนื้อหาต่อไปนี้ จะแนะนำถึงวิธีการจัดเก็บไฟล์และโฟลเดอร์ที่ถูกต้อง และสามารถปฏิบัติตามได้ไม่ยาก
1.ควรจัดเก็บไฟล์ข้อมูลต่างๆ แยกออกจากไฟล์โปรแกรม
เป็นวิธีที่หลายๆคน ที่ใช้คอมพิวเตอร์มายาวนานมักนิยมใช้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่ากระทำตากล่าวคือ โดยส่วนใหญ่แล้ว คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ทั่วไปมักใช้ฮาร์ดดิสก์เพียง 1 ตัว ดังนั้นการแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ออกเป็น 2 ส่วน หรือที่เรียกว่าการแบ่งพาร์ทิชั่น (Partition) ทำให้เราสามารถแยกจัดเก็บไฟล์ได้อย่างชัดเจน โดยตัวโปรแกรมระบบปฏิบัติการและโปรแกรมประยุกต์ต่างๆจะเก็บอยู่ที่ไดรฟ์ C:ส่วนไดรฟ์ D:จะเก็บไฟล์ข้อมูลทั่วไปของเรา ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีคือ
- กรณี Windows รวน, เสียหาย หรือต้องการติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ ก็สามารถติดตั้งลงในไดรฟ์ C: ได้ทันที โดยไม่ส่งผลต่อไดรฟ์ D: (ถ้าดำเนินการอย่างถูกต้อง)
- การสำรองข้อมูล จะทำง่ายขึ้น ด้วยการสำรองทั้งไดรฟ์ หรือสำรองในระดับพาร์ทิชั่น
2. ไม่ควรเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรมติดตั้ง
ในขณะที่มีการติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ โปรแกรมประยุกต์เหล้านั้นจะสร้างโฟลเดอร์ของตนขึ้นมา เพื่อเก็บข้อมูลของตัวโปรแกรมเอาไว้ และตำแหน่งโฟลเดอร์นี้เอง จะถูกนำมาใช้อ้างอิงในการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลสำคัญๆ เมื่อมีการสั่งรันโปรแกรม ดังนั้น ภายหลังจากการติดตั้งโปรแกรมประยุกต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ควรเข้าไปเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ รวมถึงห้ามลบหรือโยกย้ายตำแหน่งจัดเก็บไฟล์ เพราะจะให้การอ้างอิงเพื่อการเข้าถึงไฟล์ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ส่งผลให้หาไฟล์ไม่พบ ทำให้โหลดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานไม่ได้ในที่สุด
3. ควรจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเพียงชุดเดียว
เป็นไปได้ว่า ปัญหาจาการมีไฟล์ข้อมูลหลายๆ ชุด ทั้งๆ ที่เป็นข้อมูลเรื่องเดียวกัน จึงทำให้เกิดความสับสนว่า ไฟล์ชุดไหนเป็นข้อมูลล่าสุด ปัญหานี้ อาจเกิดความหวังดีในเรื่องการสำรองข้อมูลเผื่อไว้ แค่บังเอิญสำรองผิดวิธีผ่านการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ๆ แบบไร้ระเบียบ ทำให้ตัวเองเกิดความสับสน สำหรับการเก็บไฟล์ข้อมูลเพียงชุดเดียว ในที่นี้ หมายความว่า หากต้องการเปิดดูหรือแก้ไขข้อมูลใดๆ ของชุดข้อมูลเหล่านั้น ก็ให้ไปเปิดที่โฟลเดอร์นั้นๆ โดยเฉพาะ ไม่ต้องไปหาที่อื่นเพื่อให้เกิดความสับสน ในขณะเดียวกัน หากต้องการสำรองข้อมูลเผื่อไไว้ ก็สามารถสำรองไว้ในสื่อภายนอกอย่าง แฟลชไดรฟ์ ฮาร์ดดิสก์แบบภายนอก หรือในกรณีที่ต้องการสำรองไว้ในฮาร์ดดิสก์เดียวกัน ก็ควรจะสร้างโฟลเดอร์ที่แสดงถึงว่าเป็นโฟลเดอร์ที่สำหรับเก็บข้อมูลสำรองเท่านั้น เช่น ตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า Backup และภายในโฟลเดอร์นี้ก็จะประกอบด้วยโฟลเดอร์ย่อยต่างๆ ที่ใช้สำหรับสำรองข้อมูลเหล่านั้น เพียงแค่นี้ ก็ช่วยลดความสับสนได้แล้ว
4. จัดระเบียบโฟลเดอร์ให้ใช้งานง่ายที่สุด
การสร้างโฟลเดอร์ย่อย เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบข้อมูลได้เป็นอย่างดี คล้ายกับตู้เอกสารที่แต่ละลิ้นชักจะจัดเก็บข้อมูลที่มีการจัดแบ่งประเภทไว้โดเฉพาะ ในขณะเดียวกัน แต่ละลิ้นชัก ก็จะประกอบไปด้วยแฟ้มข้อมูลหมวดต่างๆ อีกจำนวนมาก ดังนั้น หากมีการสร้างโฟลเดอร์ย่อยในระดับลึกลงไปหลายๆ ชั้น จะทำให้ต้องเสียเวลาคลิกเพื่อเปิดโฟล์เดอร์นั้น
5. ให้ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่สื่อความหมายได้ดี
การตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่สื่อความหมายได้ดีนั้น ทำให้เราสารถตีความหมายว่าไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้นเก็บข้อมูลอะไรไว้
การเปลี่ยนมุมมองการแสดงผลของไฟล์
ที่โปรแกรม Windows Explorer เมื่อเข้าไปยังตำแหน่งโฟลเดอร์ตามที่ต้องการแล้วจะมีรายการไฟล์ข้อมูลต่างๆ แสดงออกมา ซึ่งรายการไฟล์เหล่านี้ เรายังสามารถเข้าไปกำหนดมุมมองการแสดงผลได้
การสร้างโฟลเดอร์
เราสามารถสร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมา เพื่อจัดเก็บไฟล์ลงในโฟลเดอร์ดังกล่าวได้ด้วยวิธีง่ายๆดังนี้
คลิกขวาที่ Windows Explorer แล้วเลือก New folder
กรอกชื่อโฟลเดอร์ลงไป
การจัดเรียงไฟล์ในโฟลเดอร์
รายการไฟล์ต่างๆ เราสามารถให้จัดเรียงใหม่ได้ โดยให้ดูจากด้านบนของราบชื่อไฟล์ จะพบชื่อหัวข้อไฟล์ต่างๆ เช่น Name, Date modified, Type และ Size หากใช้เมาส์คลิกที่หัวข้อใด ก็จะเป็นการเรียงลำดับรายชื่อไฟล์ตามหัวข้อนั้นๆ (กรณีคลิกหัวข้อนั้นซ้ำ จะเปลี่ยนลำดับการเรียง เช่น เรียงจากน้อยไปมาก หรือมากไปน้อย)
ตัวอย่างการจัดเรียง
การคัดลอกไฟล์หรือโฟลเดอร์
ในการเลือกไฟล์ สามารกทำไห้โดย
- กดปุ่ม Ctrl + A เป็นการเลือกทุกไฟล์
- กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วคลิกที่ชื่อไฟล์ เป็นการเลือกที่ละไฟล์ตามที่กำหนด
- กดปุ่ม Shift ค้างไว้ แล้วคลิกที่ชื่อไฟล์ เป็นการเลือกไฟล์แรกจรดไฟล์สุดท้ายแบบต่อเนื่องกัน
เลือกไฟล์ที่ต้องการคัดลอก แล้วคลิกขวาเลือกรายการ Copy
กรณีต้องการย้ายตำแหน่งเก็บไฟล์ ให้เลือกรายการ Cut
จากนั้นเข้าไปยังตำแหน่งโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บ แล้วคลิกขวาเลือกรายการ Paste
การใช้คำสั่งบน Command Prompt
สำหรับเนื้อหาต่อไปนี้ จะนำเสนอคำสั่งดอสพื้นฐานที่สำคัญๆ ภายในหน้าต่าง Command Prompt หรือ Command Line บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งการเรียนรู้ใช้งานคำสั่งดังกล่าวมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยทีเดียว โดยในที่นี้จะขอกล่าวเพียงบางคำสั่งเท่านั้น
การเข้าสู่หน้าต่าง Command Prompt
คลิกขวาที่ Start จะขึ้นเมนูดังรูป
หน้าต่าง Command Prompt ก็จะแสดงออกมาดังรูป
คำสั่ง dir
เป็นคำสั่งแสดงรายชื่อไฟล์ต่างๆ บนดิสก์
การใช้คำสั่ง dir/w เพื่อแสดงรายชื่อไฟล์ตามแนวกว้าง
คำสั่ง cls
เป็นคำสั่งให้ล้างหน้าจอ
เมื่อต้องการล้างหน้าจอ ให้พิมพ์คำสั่ง cls ลงไป
คำสั่ง date
เป็นคำสั่งให่แสดงวันที่ หรือใช้สำหรับกำหนดวันที่ใหม่ โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ก็จะส่งผลต่อวันที่ในระบบเปลี่ยนแปลงตามด้วย
แบบทดสอบประเมินผลการเรียนรู้7
ตอนที่ 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. แกดเจ็ตส์ (Gadgets) คืออะไร นำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
ตอบ คือโปรแกรมเล็กๆ ที่สามารถนำมาวางไว้บนเดสก์ท็อบเพื่อใช้งานตามคุณสมบัติของโปรแกรมแกดเจ็ตส์นั้นๆ สามารถตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ เวลา และแสดงค่าเงิน
2. ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ จะมีส่วนที่เรียกว่า “Control Panel” อยากทราบว่า มีส่วนสำคัญต่อการใช้งานอย่างไร
ตอบ เป็นศูนย์รวมของโปรแกรมสำคัญต่างๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่าและเรียกใช้งาน
3. จงสรุปวิธีการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้สามารถเปิด/ปิดโดยอัตโนมัติ
ตอบ ขั้นตอนการปิด
- ให้เข้าไปยัง Control Panel ตรง Administrative Tools แล้วเลือกหัวข้อรายการ Schedule tasks เมื่อหน้าต่าง Task scheduler ถูกเปิดออกมาให้คลิกที่รายการ Create Basic Task ให้ตั้งชื่อโดยตั้งชื่อว่า Auto shutdown รายละเอียดให้ระบุเวลาแล้วคลิกปุ่ม Next ตรงหัวข้อ Trigger เลือก Daily
ขั้นตอนการเปิด
- กดปุ่ม Power ใช้ปุ่ม Delete F10 เลื่อนไปยังหัวข้อ Resume by RTC ให้เคาะ Enter เข้าไป แล้วตั้งค่าเป็น Enable จะเกิดหัวข้อ 2 รายการคือ RTC Alarm Date และ RTC Alarm Time ในที่ได้ตั้งค่า RTC Alarm Date เป็น Every Day ต่อไปตั้งเวลาที่ RCT Alarm Time
4. ไบออสคืออะไร มีส่วนสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ คือโปรแกรมเล็กๆ ที่ถูกเก็บไว้ในชิป ROM ทำหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ และมีส่วนสำคัญมากในการบู๊ตเครื่อง
5. การถอดถอนโปรแกรมออกไปจากเครื่อง จะกระทำเมื่อใด และมีประโยชน์อย่างไร
ตอบ โปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องไม่ได้ถูกใช้งาน มีประโยชน์คือ จะทำให้เนื้อที่บนฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้น
6. จงสรุปแนวคิดการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์มาให้พอเข้าใจ
ตอบ เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงและจัดการงานบางอย่างอย่างเป็นระเบียบ
7. การคัดลอกแบบ Copy และ Cut มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างที่ไฟล์ต้นทางจะไม่ลบออกไป(Copy) และ ไฟล์ต้นทางจะถูกลบออกไป (Cut)
8. ตามปกติแล้ว ทำไมจึงไม่สามารถเปลี่ยนนามสกุลไฟล์บน Windows Explorer ได้และถ้าหากจำเป็นต้องทำ จะต้องทำอย่างไร และสามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง
ตอบ เพราะจะทำให้ไฟล์นั้นถูกเปิดอ่านตามปกติไม่ได้ วิธีการคือเข้าไปตั้งค่าใหม่โดยให้คลิกที่เมนู
Organize Folder and Search options ที่แท็บ View ให้นำเครื่องหมายถูกตรงหัวข้อ Hide extensions for known file type ออกไป แล้วตามด้วยปุ่ม Ok จะพบว่ารายชื่อไฟล์ต่างๆจะแสดงชื่อนามสกุลไฟล์ใหม่อีกครั้งก็จะเตือนว่าไฟล์ที่ถูกเปลี่ยนนามสกุลอาจไม่สามารถเปิดอ่านใช้งานได้
9. Command Prompt บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์มีไว้เพื่ออะไร จงอธิบาย
ตอบ เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบรูปแบบการใช้คำสั่ง สามารถให้เครื่องแสดงรายละเอียดHelp ได้ด้วยการพิมพ์ /? ต่อท้ายคำสั่ง
10. คำสั่งในการเปลี่ยนทิศทางการรับส่งข้อมูลบน Command Prompt มีอะไรบ้าง จงสรุปมาให้พอเข้าใจ
ตอบ 1. คำสั่ง dir แสดงรายชื่อไฟล์ต่างๆ
2. คำสั่ง cls ให้ล้างหน้าจอ
3. คำสั่ง date ให้แสดงวันที่
4. คำสั่ง time ให้แสดงเวลา
5. คำสั่ง del ใช้สำหรับลบไฟล์ออกไป
6. คำสั่ง ren สำหรับเปลี่ยนชื่อไฟล์
7. คำสั่ง md,cd ใช้จัดการกับไดเรกทอรีหรือโฟลเดอร์
8. คำสั่ง copy ใช้คัดลอกข้อมูล
ตอนที่ 3 จงใช้คำสั่ง Command Prompt เพื่อดำเนินการกับโจทย์ที่กำหนดมาให้
กำหนดให้ไดเรกทอรีหรือตำแหน่งโฟลเดอร์ปัจจุบันอยู่ที่ “C:\TEST>”
1.จงแสดงรายชื่อไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “Project” โดยตัวถัดไปเป็นตัวอะไรก็ได้ นามสกุลใดก็ได้
1.เปิดโปรแกรม CMD
2.ย้ายจากไดเรกทอรี C:\Users\win7 ไปที่ C:\Test โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Users\win7> cd C:\Test
3.ได้ผลดังนี้
4.ไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “Project” โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Test> dir Project.*
5.ได้ผลดังนี้
6.อธิบายได้ดังนี้
คำสั่งคืนข้อมูลของไดร์ฟ C
1. ไม่มีการตั้งชื่อไดร์ฟ
2. ไดร์ฟมีซีเรียลนัมเบอร์ คือ 44C7-FEAC
3. ไดเรกทอรีที่ทำงานอยู่คือ C:\Test
4. ไม่เจอไฟล์ที่ค้นหา
7. ในกรณีที่มีไดเรกทอรีและไฟล์ที่ตรงตามเงื่อนไขการค้นหาคำสั่ง dir จะให้ข้อมูลดังรูป
2. จากข้อที่ 1 หากต้องการแสดงเฉพาะนามสกุล .docx
1. สามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการให้แสดงโดยใช้คำสั่งดังนี้
C:\Test>dir *.docx
2. ได้ผลดังนี้
3.จงสร้างโฟลเดอร์ “Budget” ที่อยู่ภายใต้โฟลเดอร์ C:\Test ซึ่งประกอบด้วยโฟลเดอร์ย่อยของปีต่างๆ อันได้แก่ “2556”, “2557” และ “2558”
1.ย้ายจาก C:\Test ไปที่ C:\Test\Budget โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Test\> cd C:\Test\Budget
2.ได้ผลดังนี้
4. ให้คัดลอกไฟล์ทั้งหมดจากไดร์ฟ G:\doc ไปเก็บไว้ที่ตำแหน่งโฟลเดอร์ “2557”
1. สามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการให้แสดงโดยใช้คำสั่งดังนี้
C:\Test\Budget\2557>copy C:\doc\Data.docx
2. ได้ผลดังนี้
5. ให้คัดลอกไฟล์เฉพาะนามสกุล .ppt จากไดรฟ์ G:\ ไปเก็บไว้ตำแหน่งโฟลเดอร์ “2558”
C:\Test\Budget\2558>copy C:\doc\Test.pptx
ได้ผลดังนี้
6. จงสร้างโฟลเดอร์ย่อยชื่อ “Mana” และ “Meena” บนตำแหน่งโฟลเดอร์ “2556”
1. .ย้ายจากไดเรกทอรี C:\Test\Budget\2558 ไปที่ C:\Test\Budget\2556 โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Test\Budget\2558>cd C:\Test\Budget\2556
2.ได้ผลดังนี้
3.จากนั้นทำการสร้างโฟลเดอร์ Mana และ Meena โดยพิมพ์สั่งดังนี้
C:\Test\Buget\2556>md Mana
C:\Test\Buget\2556>md Meena
4.ได้ผลดังนี้
7.จงเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ทั้งหมดที่อยู่บนโฟลเดอร์ “2557” มาเป็นนามสกุล “.OLD”
1. ย้ายจากไดเรกทอรี C:\Test\Budget\2556 ไปที่ C:\Test\Budget\2557 โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Test\Budget\2556>cd C:\Test\Budget\2557
2.ได้ผลดังนี้
3. จากนั้นให้ทำการพิมพ์คำสั่ง ren เพื่อทำการเปลี่ยนสกุลไฟล์เป็น .OLD
C:\Test\Budget\2557>ren *.docx *.old
4.ได้ผลดังนี้
8.จงลบไฟล์ทั้งหมดบนโฟลเดอร์ “2557” ที่ขึ้นต้นด้วยตัว “D” ตัวถัดไปคือตัวอะไรก็ได้ และ ต้องมีนามสกุลเป็น “.DOC”
1.ให้ทำการสร้างไฟล์ตามที่โจทย์กำหนด
2.ไปที่ CMD ทำการลบไฟล์โดยใช้คำสั่งดังนี้
del *.Docx
3.ผลดังนี้
9.จงเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ทั้งหมดบนโฟลเดอร์ “2557” ที่มีนามสกุล “.OLD” มาเป็น “.TMP” แทน
1. ใช้คำสั่ง ren เพื่อทำการเปลี่ยนสกุลไฟล์เป็น .TMP.
C:\Test\Budget\2557>ren *.old *.tmp
2.ได้ผลดังนี้
10.จงลบไฟล์ในโฟลเดอร์ “2557” ออกไปทั้งหมด โดยเรียกใช้งานผ่าน Input File (Redirection เครื่องหมาย “<” จากไฟล์ที่ตั้งขึ้นคือ confirm.scr) ด้วยการยืนยันการลบไฟล์ทั้งหมดด้วย “Y” แบบอัตโนมัติ
1.ทำการลบไฟล์ทุกไฟล์ไปก่อน โดยพิมพ์ตามนี้
C:\Test\Budget\2557\>del *.*
2.โปรแกรมจะถามว่าแน่ใจหรือไม่ให้ พิมพ์ “Y” ลงไป
3.ได้ผลดังนี้
4.หลังจากนั้นให้ทำการสร้างไฟล์ให้โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้
C:\Test\Budget\2557> copy con confirm.scr
5.เพื่อพิมพ์เสร็จ กด Enter และพิมพ์ Y ลงไปและ กด Enter หลังจากนั้น กด F6 ได้ผลดังนี้
6.จากนั้นให้พิมพ์ confirm.scr ลงใน CMD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น