วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทที่ 5 การติดตั้งระบบปฏิบัติการ

สิทธิ์ความเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์

   สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของโปรแกรมซอฟต์แวร์ ระบุถึงการอนุญาติให้ใช้งานโปรแกรมภายหลังจากโปรแกรมซอฟต์แวร์นั้นถูกพัฒนาขึ้น โดยผู้พัฒนา (อาจเป็นบุคคลหรือระดับองค์กร) จะถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโปรแกรมดังกล่าว ว่าจะอนุญาตให้นำไปจำหน่าย แบ่งฟัน หรือแจกจ่ายหรือไม่ รวมถึงขอบเขตการใช้งานโปรแกรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผู้ใช้ควรอ่านและศึกษาให้ดีเพราะมีผลต่อกฎหมายลิขสิทธิ์ ดังนั้น ซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ใช้งานในทุกวันนี้ จะมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน โดยหากพิจารณาการจัดแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์ในมุมมองทางตลาดแล้ว จะแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน อันได้แก่

1.ซอฟต์แวร์เพื่อการพาณิชย์

   คือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อจำหน่ายและหวังผลกำไร ตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อซอฟต์แวร์ชนิดนี้มาใช้งาน มักเป็นลิขสิทธิ์แบบใช้งานคนเดียว (Single-User License) เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายถึง ขอบเขตการติดตั้งใช้งานจะทำลงในเครื่องของเราเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
http://inex.co.th/shop/media/catalog/product/cache/1/image/1200x/040ec09b1e35df139433887a97daa66f/s/i/simplify3d_8_1.jpg


2. แชร์แวร์ (Shareware)

   เป็นโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์เช่นกัน โดยอาจจถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรหรือโปรแกรมเมอร์เพียงคนเดียวก็ได้ มีการแจกจ่ายให้ทดลองฟรีภายในระยะเวลาที่กำหนด ที่สำคัญ โปรแกรมที่ให้ทดลองใช้ฟรีนั้น อาจมีเครื่องมือบางตัวถูกจำกัดขอบเขตการใช้
https://downloaddd.in.th/knowledge/wp-content/uploads/2013/11/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C-200x200.png



3. ฟรีแวร์ (Freeware)

   คือซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ผู้ใช้สามารถนำโปรแกรมนี้มาใช้งานได้ฟรี แล้วยังสามารถแบ่งปันหรือคัดลอกไปให้ผู้อื่นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนโปรแกรมยังคงเป็นเจ้าของสิทธิ์อยู่
http://www.geocities.ws/55003498089/Image089/115.png



4. ซอฟต์แวร์สาธารณะ

   คือโปรแกรมที่ปราศจากลิขสิทธิ์ใดๆ โดยเจ้าของสิทธิ์ในตัวโปรแกรม ที่เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ขึ้นมา มีจุดประสงค์บริจาคแก่สาธารณะ ดังนั้น ซอฟต์แวร์ชนิดนี้ นอกจากยังใช้งานฟรีแล้ว ยังสามารถคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข และแจกจ่ายให้กับบุคคลอื่นๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัดและข้อผูกมัดใดๆ
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiCNqMfAi8nvLn99kClRNZ-3jRkFmmHCrAO05feQxjnOan8SwcQ05rNFrVGc9HOXMvhIw2nDGjxjDbVUTGg9izXGMhp1vcVti3jfep5IhH3cq_n6SdSg_2fbx177bmgC87ZtlrmLunWT8A/s1600/1-8-638.jpg



ระบบปฏิบัติการตามมาตรฐานปิดและมาตรฐานเปิด

      ซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานปิด คือซอฟต์แวร์ที่มีกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ (Proprietary) ไม่มีการเปิดเผยชุดคำสั่ง กล่าวคือ เป็นซอฟต์แวร์ที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เเดียว โดยได้รับใบอนุญาตภายใต้สิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ที่นำซอฟต์แวร์นี้ไปใช้จะต้องซื้อลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง เพื่อขอใบอนุญาตการใช้งานที่อยู่ภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด
     ซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานเปิด คือซอฟต์แวร์แบบ Open Source ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดการอาศัยความร่วมมือจากโปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลก โดยมีความตั้งใจที่จะเปิดเผยชุดคำสั่งสู่สาธารณะ เพื่อให้เหล่าพัฒนาช่วยกันสร้างซอฟต์แวร์เหล่านี้ขึ้นมา และให้ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถนำไปใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 

ระบบปฏิบัติการ Windows 7

   ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2552 อย่างเป็นทางการ และยังสร้างยอดจำหน่ายสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ โดยระยะเวลาเพียง 3 ปีถัดมา มียอดจำหน่ายมากกว่า 600 ล้านชุด และกลุ่มผู้ใช้งานเดิมอย่าง Windows XP และ Windows Vista ได้เปลี่ยนใจหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 มากขึ้นเรื่อยๆ
  ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ยังมีให้เลือกใช้ทั้งแบบ 32 บิตและ 64 บิต โดยมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามรายละเอียดต่อไปนี้
  • Windows 7 แบบ 32 บิต รองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 4 กิกะไบต์
  • Windows 7 แบบ 64 บิต รองรับหน่วยความจำได้ไม่จำกัด
  • Windows 7 แบบ 64 บิต ทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่าแบบ 32 บิต

ขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7

    เมื่อคอมพิวเตอร์ที่ประกอบไว้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความสมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งาน ขั้นต่อไปคือการจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถบูตเครื่องได้ จึงต้องติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการลงไปก่อน ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อตอบสนองการใช้งานแก่ผู้ใช้ตามความประสงค์
ต่อไปนี้จะเป็นการสาธิตวิธีการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows  7  ซึ่งต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
ชุดคอมพิวเตอร์ที่พร้อมใช้งาน
แผ่นติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows  7 
แผ่นไดรเวอร์เมนบอร์ด 
วิธีการติดตั้ง ดังนี้
1. ทำการตั้งค่า BIOS ของ คอมพิวเตอร์ของเรา โดยทำการเปิดคอมพิวเตอร์ > จากนั้นกด ปุ่ม “Delete” บน keyboard เพื่อเข้าในหน้า Bios > จากนั้นตั้งให้ Boot จาก DVD เป็นอันดับแรก > จากนั้นทำการบันทึกค่าที่เราเปลี่ยน จากนั้นคอมพิวเตอร์จะ Restart

หมายเหตุ : สำหรับ Notebook บางรุ่นอาจจะให้กด F2 , F10 แล้วแต่ยี่ห้อนะครับ

วิธีการเข้า BIOS : การเข้าไบออสคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่น

Note : แต่ถ้าเราต้องการกดใช้ Boot menu เลย ทั้ง Notebook / PC ส่วนมากจะกด F12 , F10 (กดย้ำๆเลยนะครับ) เผื่อทำการเลือกเลยว่าเราจะ Boot จากอะไรในตอนเปิดคอมพิวเตอร์ โดยให้เลือกจาก DVD / USB ตามที่เราต้องการที่จะติดตั้ง Windows 7

Tab : Boot  “ภาพด้านล่างเป็นการปรับ BIOS โดยถ้าต้องการให้ ให้ Boot USB ก็ให้ทำการเลื่อน USB ขึ้นมาบนสุด แต่ถ้าจะให้ CD/DVD Boot ก็ให้เลื่อนให้ขึ้นมาบนสุด โดยการกด +/- ในการ เลื่อนขึ้นลง ”
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/SET-BIOS-COMPUTER-600x450.jpg

สำหรับ Windows 7 แนะนำให้ปรับ Mode SATA Operation : ให้เป็น AHCI 

AHCI (Advanced Host Controller Interface ) this is a hardware mechanism that allows the software to communicate with Serial ATA (SATA) devices.

โดย AHCI เป็น ฮาร์ดแวร์ที่ควบคุมกลไกการทำงาน ระหว่างซอฟต์แวร์กับ SATA
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/AHCI-Mode-HDD-600x450.jpg

2. จากนั้นจะขึ้นข้อความ Press any key to boot cd or dvd ….   ให้ทำการกด Enter 1ครั้ง  หรือรัวๆเลยก็ได้แล้วแต่ครับ

3. เริ่มเข้า Starting Windows
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7.jpg

3. เข้าสู่หน้า Windows 7 Setup

Language to install : เลือก English

Time and Currency format : เบิอก English (United States)

Keyboard or input method  : เลือก US
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-Setup.jpg


4. ทำการกด Install Now
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install.jpg

5. เลือก I accept the license terms > กด Next
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-Setup-license.jpg

6. ทำการเลือก Custom (advance) ในการติดตั้ง
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-custom.jpg

7. ในขั้นตอนตรงนี้มี 2 กรณี ให้้เลือกตามที่ผมกำลังจะอธิบายนะ
7.1 กรณีแรก : กรณีเพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่ และยังไม่เคยลง Windows แปลว่า Harddisk ยังไม่ได้ใช้แลยังไม่ได้แบ่ง Partition 

7.1.1 .ทำการเลือก DISK ที่เรามีโดยเอาเมาส์คลิกซ้ายเลือก และจะเห็นเมนูให้ทำการกด Drive option (advanced)
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-drive-option-advance.jpg

7.1.2 ทำการกด New >

Size ให้ทำการใส่จำนวน Harddisk Drive C ที่เราอยากได้ เช่น 100 GB ก็ให้เอา 1024 คูณไป ก็จะได้ 102400 MB (ผมแนะนำให้ Drive C = 100 GB)  ส่วนที่เหลือก็ให้ทำการคลิก New อีกครั้งแล้วก็แบ่งให้หมดจะได้เป็น Drive D
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-new-disk.jpg


7.1.3  ให้ทำการเลือก Drive ที่เราแบ่งไว้ที่จะเป็น Drive : C โดยทำการคลิกบน Drive นั้นๆ และทำการกด Next

หมายเหตุ : ไม่ต้องสนใจ Disk ที่เป็น Type : System / System Reserved
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install-windows.jpg

7.2 กรณีสอง : กรณีลง Windows มาแล้ว แต่อยากทำการลง Windows 7 ใหม่

7.2.1 ให้ทำการเลือกไปที่ Drive ที่เป็น Drive C เดิมของเราปัจจุบัน (คลิกเมาส์ซ้ายเลือก) จากนั้นกด Format (โดยให้สังเกตุก่อนการ Format ว่า Drive C ของเราคือ Drive ไหน โดยให้สังเกตุจากความจุของ Harddisk หรือเราจะเข้าไปเปลี่ยน Label ของ Drive ก่อนการ Format ก็ได้ เราก็จะได้ไม่ Format ผิด Drive)

ก่อนการ format เราต้อง Backup ข้อมูลของ Drive C ที่เราที่สำคัญของเราด้วยนะ
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-format-disk.jpg


7.2.2  จากนั้นก็เลือก Drive C ที่เรา format ไป > กด Next

หมายเหตุ : ไม่ต้องสนใจ Disk ที่เป็น Type : System
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install-windows.jpg

8. รอทำการติดตั้ง Windows 7
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-watting-install.jpg


9. ตั้งชื่อ Type a user name : ให้เราตั้งชื่อ User ในการ Login Windows  อาทิเช่น Patompon

Type a computer name : ให้ตั้งชื่อคอมพิวเตอร์
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-username.jpg

10. ทำการตั้ง Password ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ โดยถ้าไม่ใส่ ก็ให้ทำการกด Next ได้เลย
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-password.jpg


11. ใส่ Product Key Windows 7 (สำหรับใครไม่เป็นหน้านี้ก็ให้ข้ามไปได้เลยครับ)
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-produckey.jpg


12. สำหรับใครที่ใช้ Windows 7 แท้ ให้เลือก User Recommended Settings ในการ Update Windows 7
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-securiry.jpg

13. ตั้งเวลาของ Windows โดยให้เลือก

Time zone : UTC+7 Bangkok
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-settime.jpg


14. เลือก Publish Network (สำหรับใครไม่เป็นหน้านี้ก็ให้ข้ามไปได้เลยครับ)
http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-publish.jpg

15. เสร็จสิ้นการติดตั้ง Windows 7

การปิดระบบใน Windows 7 

ระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะมีรูปแบบการปิดระบบหรือปิดเครื่อง คล้ายกับเวอร์ชั่นก่อนๆ คือคลิกที่ปุ่ม Start Shut down เพื่อปิดโปรแกรมและออกจากระบบ แต่ก็ยังมีทางเลือกในการเลือกโหมดเพื่อออกจากระบบในรูปแบบอื่นๆอีกเช่นกัน ด้วยการคลิกที่ปุ่มลูกศร ซึ่งอยู่ข้างปุ่ม Shut down ที่ด้านขวาโดยที่
  • Shuttdown เป็นการปิดเครื่อง
  • Switch user เป็นการล็อกออนเข้าบัญชีผู้อื่น โดยงานของบัญชีผู้ใช้งานเดิมยังคงอยู่ ซึ่งสามารถกลับมาใช้งานบัญชีเดิมได้ในภายหลัง
  • Log off เป็นการปิดการทำงานของบัญชีผู้ใช้ที่ใช้อยู่ปัจจุบันเพื่อล็อกออนเข้าบัญชีผู้ใช้รายอื่น
  • Lock เป็นการหยุดพักการทำงานแบบชั่วคราว โดยจะต้องกรอกรหัสผ่านให้ถูกต้องเมื่อต้องการกลับมาใช้งานต่อ
  • Restart เป็นการปิดระบบ แล้วบูตเครื่องใหม่
  • Sleep เป็นการหยุดพักระบบหรือให้ระบบหลับชั่วคราว ครั้นเมื่อต้องการกลับมาใช้งานก็สามารถขยับเมาส์หรือกดปุ่มคีย์ใดๆ บนคีย์บอร์ด ระบบก็ตื่นขึ้นมาให้เราสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • Hibernate เป็นการหยุดพักการทำงานชั่วคราว ด้วยการจัดเก็บงานที่ค้างคาอยู่ ณ ขณะรั้นไว้ในฮาร์ดดิสก์ ดังนั้น ระหว่างที่ระบบกำลังปิด จะต้องใช้เวลาสักครู่หนึ่งเพื่อคัดลอกข้อมูลลงในฮาร์ดดิสก์ ครั้นเมื่อคัดลอกเสร็จ เครื่องก็จะถูกปิดไป จนกระทั่งเวลาต่อมาเมื่อต้องการกับมาใช้งาน ก็ให้เปิดเครื่องตามปกติ ระบบก็จะโหลดโปรแกรมทร่ค้างคาอยู่ขึ้นมา เพื่อให้เราได้ใช้งานต่อ

ระบบปฏิบัติการ Windows 8

      ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้มีการปรับปรุงรูปลักษณ์พร้อมกับสนับสนุนการใช้งานผ่านจอสัมผัส ซึ่งคล้ายกันกับ Windows Phone โดยไมโครซอฟต์เรียกอินเตอร์เฟซนี้ว่า "Metro Interface" นอกจากนี้ กรณีผู้ใช้ยังอยากลับไปใช้งานอินเตอร์เฟซแบบเดสก์ท๊อปที่คุ้นเคยมานานก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม  ระบบปกฏิบัติการ Windows 8 อาจทำให้ผู้ที่เริ่มต้นใช้งานต้องปรับตัวไม่น้อยในเรื่องรูปแบบอินเตอร์เฟซ โดยเฉพาะปุ่ม Start ตรงตำแหน่งทาสก์บาร์ที่เรามักคุ้นเคยกันดี ได้ถูกตัดออกไป


ขั้นตอนการติดตั้ง

1.ก่อนอื่นใส่แผ่นติดตั้งลงในเครื่องอ่านดีวีดีของคอมพิวเตอร์ ทำการบูตเครื่องให้ไปตั้งไบออสของเครื่องให้บูตจากแผ่นดีวีดีเป็นอันดับแรกซึ่งการเข้าไบออสนั้นส่วนมาก ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็จะกดปุ่ม Del ส่วนแลปทอปก็จะกดปุ่ม F2 ให้ดูที่คู่มือของแต่ละเครื่องก็แล้วกัน

เมื่อเครื่องบูตขึ้นมาจนเห็นคำว่า Press any key to boot from CD or DVD…ให้กด ENTER เลยครับ

https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_02.jpg


2.ปล่อยให้เครื่องทำงานไปจนได้จนปรากฎดังภาพ ให้คลิกเลือกรายการตามนี้

  • Language to install : English
  • Time and currency format : Thai(Thailand)
  • Keyboard or input method : ตัววินโดวส์จะเลือกให้เป็น Thai เพราะเห็นว่า Time and currency formatตั้งเป็น Thai ให้เราเลือกกลับมาเป็น US ก่อน เหตุผลเพราะเมื่อติดตั้งเสร็จหน้าล็อกออนเข้าระบบจะเป็นภาษาไทย เราอาจงงได้ในการกรอกชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ด
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_03.jpg

3.ในหน้าต่าง Windows Setup ให้คลิก Install now เพื่อเริ่มการติดตั้ง Windows 8
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_04.jpg

4.ในหน้าต่าง License terms คลิกถูก I accept the term license จากนั้นคลิก Next
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_05.jpg

5.ในหน้าต่าง Which type of installation do you want ให้เลือกเป็น Custom: Install Windows only (advanced)
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_06.jpg

6.ในหน้าต่าง Where do you want to install Windows ให้เลือกฮาร์ดดิสก์หรือพาร์ติชันที่ต้องการติดตั้ง (ในที่นี้เลือก Drive 0) เสร็จแล้วคลิก Next
ข้อควรจำในขั้นตอนนี้
ขั้นตอนนี้เราเลือก Drive ที่จะลง Windows8 ส่วนมาก จะลงใน Disk/Drive 0 นะครับ ก็คือ Drive C: ของ Windows เรานั้นเอง ระวังให้ดีอย่าลงผิดไดร์ฟนะ ในกรณีที่มีพาร์ติชันมากกว่า 1 พาร์ติชัน
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_07.jpg
ในการ Format Windows ข้อมูลจะหายเฉพาะที่ Drive C นะครับ
 สำหรับเครื่องที่มี Windows XP , Windows 7 แล้วจะลงใหม่เป็น Windows 8
1.ให้ทำการ Format Drive ที่เป็นวินโดวส์ตัวเก่าก่อน โดยทำการกด Drive options (advanced) จากนั้นเลือก ไดร์ฟของวินโดวส์เก่าแล้วคลิก Format …ย้ำอีกทีดูดีๆนะครับ ถ้าผิดไดร์ฟข้อมูลในไดร์ฟหายหมดนะ
2. จากนั้นก็เลือก Drive/disk ที่เรา Format ไปจากข้อที่ผ่านมา จากนั้นกด Next
สำหรับเครื่องที่เพิ่งซื้อมาใหม่หรือฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่
1 ให้เราทำการกด Drive options จากนั้นเลือกฮาร์ดดิสก์แล้วคลิก New เพื่อทำการแบ่งพาร์ติชันวินโดวส์ให้แบ่งมาสัก 80 -100 GB ก็พอ ( 1GB = 1024 MB)
2 จากนั้น ก็แบ่งส่วนที่เหลือไว้ให้กับ Drive D , E ตามความเหมาะสม
3 ต่อมาให้เลือกไดร์ฟที่จะให้ลงวินโดวส์ โดยทำการคลิกบน Drive/Disk แล้วคลิก Next
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_08.jpg

7.ระบบจะเริ่มทำการติดตั้ง Windows 8 โดยจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ของวินโดวส์ตามนี้ Copying Windows files, Getting files ready for installation, Installing features, Installing updates และ Finishing up ให้รอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ ก็ประมาณ 15 – 20 นาที ขึ้นอยู่กับเครื่องว่าแรงขนาดไหน

https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_09.jpg

8.เมื่อ Windows 8 ติดตั้งเรียบร้อย เครื่องจะรีสตาร์ท 1 ครั้ง
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_10.jpg

9.หลังจากทำการติดตั้งแล้วเสร็จ Windows จะทำการรีสตาร์ทเครื่อง 1-2 รอบ จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Personalize ให้ทำการเลือกสีของ Background และกำหนดชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง PC name เสร็จแล้วคลิก Next
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_11.jpg


10.ขั้นตอนการ Settings ให้เราเลือก Use Express Settings เพื่อทำการตั้งค่าระบบแบบด่วน
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_12.jpg

11.ในหน้าต่าง Sign in to your PC ให้คลิก Sign in without a Microsoft account แล้วคลิก Next

** ในขั้นตอนนี้จะมีวิธีการ Sign in to your PC อยู่ 2 วิธี ได้แก่ Email Address และ Sign in without a Microsoft account สำหรับในที่นี้ผมขอให้เลือก Sign in without a Microsoft account เพราะสะดวกกว่า ส่วน Email Address เราต้องต่ออินเตอร์เน็ตและต้องมีอีเมลของ outlook.com หรือ Hotmail.com อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเราสามารถสร้างได้ภายหลังที่เข้าใช้วินโดวส์แล้วก็ได้**
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_13.jpg

12.หน้าต่างต่อมาให้คลิก Local account
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_14.jpg

13.ต่อมาให้กำหนดชื่อผู้ใช้ในช่อง User name แล้วกำหนดรหัสผ่านที่ต้องการ 2 ครั้ง ในช่อง Password และ Reenter password จากนั้นข้อความช่วยจำรหัสผ่านในช่อง Password hint แล้วคลิก Finish
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_15.jpg


14.ระบบจะทำการจัดเตรียมระบบตามการตั้งค่า
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_16.jpg

15.ระบบแนะนำการใช้งานเบื้องต้นจากหน้านี้ก็จะเข้าหน้า Lock on Screen
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_17.jpg

16.เมื่อมาถึงหน้า Lock on Screen?คุณก็พร้อมใช้งาน Windows 8 ได้แล้ว
https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2012/11/clean_install_8_18.jpg

อ้างอิง

http://www.windowssiam.com/install-windows-7/
https://notebookspec.com/

บทที่ 4 ประเภทของโปรแกรมระบบปฏิบัติการ

ความแตกต่างของระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการชนิดต่างๆ ถูกออกแบบและสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความต้องการที่แตกต่างกัน อันได้แก่
1. อินเตอร์เฟซของระบบปฏิบัติการ
2. ประเภทของระบบปฏิบัติการ
3. ชนิดของซีพียูที่สนับสนุน


 

   




http://comerror.com/news_image/15_27072013031625_1.jpg

อินเตอร์เฟซของระบบปฏิบัติการ

อินเตอร์เฟซของระบบปฏิบัติการสามารถถูกออกแบบให้อยู่ในรูปของการโต้ตอบด้วยคำสั่ง หรือแบบกราฟิกก็ได้โดยที่


https://tantanlowbatt.files.wordpress.com/2015/01/002.jpg?w=620

อินเตอร์เฟซแบบคำสั่ง (Command Line)

เป็นอินเตอร์เฟซที่ผู้ใช้ต้องมีความรู้ในการโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ผ่านคำสั่งต่างๆ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงต้องรู้ว่า ต้องป้อนคำสั่งอะไรลงไปเพื่อโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์หรือสั่งงานให้เครื่องทำ  ตัวอย่างเช่น ในระบบปฏิบัติการ DOS หากต้องการสร้างไดเรกทอรี (โฟลเดอร์) จะต้องใช้คำสั่ง md หรือหากต้องการคัดลอกไฟล์ก็จะต้องใช้คำสั่ง copy ซึ่งนอกจากต้องรู้คำสั่งแล้ว ยังต้องเขียนรูปแบบคำสั่งให้ถูกต้องด้วย
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/29/Linux_command-line._Bash._GNOME_Terminal._screenshot.png

อินเตอร์เฟซแบบกราฟิก (Graphics User Interface : GUI)

ระบบปฏิบัติการยุคใหม่ อินเตอร์เฟซเพื่อการโต้ตอบมักถูกออกแบบเป็น GUI ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังดึงดูดความสนใจแก่ผู้ใช้และยังช่วยให้การโต้ตอบระหว่างกันสะดวกยิ่งขึ้น
http://www.ictlounge.com/Images/gui_large.jpg

ประเภทของระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ ยังถูกจัดแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQSOXifVzmk4ijrHSkj3kXoHX0swlsjUi_gKLLiGKQ7R308gBglIeni01NqKWfOoCF5KNuXItFyKLp64WCWQm7DiimKIhIG-FwmloJciLz5wU4gUhXu4dUF57AMt7b22L3BWZhB_ppDq8/s1600/windows-logo.jpg

ระบบปฏิบัติการส่วนบุคคล (Personal Operating Systems)

เป็นระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้งานส่วนบุคคลเป็นหลัก ในลักษณะของผู้ใช้คนเดียว (Stand-Alone) ตัวอย่างเช่น ระบบปฏิบัติการ Windows
http://hautesecure.com/wp-content/uploads/2011/12/OS_thumb.jpg

ระบบปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operating Systems)

เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานบนระบบเครือข่ายเป็นหลัก สามารถรองรับการเชื่อมต่อขากเครื่องลูกข่ายต่างๆ เข้าด้วยกัน  โดยมีศูนย์บริการที่เรียกว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เป็นเครื่องแม่ข่ายหรือมักเรียกกันว่าโฮสต์
https://sites.google.com/site/sornsindompraiwan/_/rsrc/1468848691728/ip-adress/kar-confix-ip-address/network-operating-system/790aa-nos.jpg


ชนิดของซีพียูที่สนับสนุน

โดยทั่วไปแล้ว ระบบปฏิบัติการมักถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานบนซีพียูประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ใช้งานกับซีพียูของเครื่องพีซีทั่วไป เครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่
http://www.oopsmobile.net/wp-content/uploads/2015/07/sofia1-300x251.jpg

ระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเซิร์ฟเวอร์

ในหัวข้อนี้ จะขอกล่าวถึงระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อันได้แก่ ระบบปฏิบัติการ DOS, Windows, Windows  Server, Mac-OS, Unix และ Linux
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKEf2JNQfWMX24uWV07WeZuK_fvdqISy_4mdjiT_KAvrlyUiX6Jhyphenhyphen4kipk0ZwUmBFG8xpHZIG61ipbwGRa2jk1IRXQz0weZ7_lDfDbDjWo3b2IlQi4eHr82neCE40peC2Ndm278nvrV64/s1600/windows-logo.jpg

  ดอส (Disk Operating System : DOS)

ระบบปฏิบัติการ DOS จัดเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงปี พ.ศ. 2523  ถึง พ.ศ. 2533 ถูกออกแบบใช้งานบนซีพีในยุคเริ่มต้น เป็นระบบปฏิบัติการที่ประมวลผลแบบงานเดียว (Single Tasking) โดยมีอินเตอร์เฟซเป็นแบบคำสั่งหรือที่เรียกว่า Command Prompt อย่างไรก็ตาม ในระบบปฏิบัติการ Windows ก็ยังผนวกการโต้ตอบแบบคำสั่งเอาไว้สำหรับผู้ที่ยังคงชื่นชอบรูปแบบการโต้ตอบชนิดนี้
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/94/FreeDOS_Beta_9_pre-release5_(command_line_interface)_on_Bochs_sshot20040912.png/440px-FreeDOS_Beta_9_pre-release5_(command_line_interface)_on_Bochs_sshot20040912.png

วินโดวส์ (Windows)

ระบบปฏิบัติการ Windows จากค่ายไมโครซอฟต์ เป็นระบบปฏิบัติการที่มีวิวัฒนาการมายาวนานหลายปีทีเดียว ในปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดมากกกว่า 90%  มีหลากหลายเวอร์ชั่น หลากหลายระดับให้เลือกใช้  ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการส่วนบุคคล ระบบปฏิบัติการเครือข่าย  และระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายละเอียดต่อไปนี้ จะสรุปประวัติโดยย่อของระบบปฏิบัติการ Windows ในเวอร์ชั่นต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
https://mlxprodcontent.blob.core.windows.net/014665-1000/en-us/thumbnail.png?v=20160821202632

Windows 1.0 ถึง Windows XP

บริษัทไมโครซอฟต์ได้สร้างระบบปฏิบัติการวินโดวส์ตัวแรกคือ Windows 1.0 เมื่อปี พ.ศ. 2528 เพื่อทดแทนระบบปฏิบัติการ DOS จนในที่สุดก็ได้ระบบปฏิบัติการ Windows 3.11 ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จจากผู้ใช้เป็นจำนวนมากที่มีอยู่ทั่วโลก
และในปี พ.ศ. 2544 นี้เอง ถือเป็นจุดเปลี่ยนอันสำคัญทีเดียวโดยทางไมโครซอฟต์ได้ปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows XP ซึ่งสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก และยังได้รับความนิยมตอบรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ใช้บางกลุ่ม ยังคงใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ แม้ว่าทางไมโครซอฟต์ได้ประกาศหยุดให้การสนับสนุนทางเทคนิคให้กับ Windows XP แล้วก็ตาม
http://i1-news.softpedia-static.com/images/news2/Microsoft-The-Future-of-Windows-XP-SP3-2.png



Windows Vista

ในช่วงปี พ.ศ. 2550 ไมโครซอฟต์ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows Vista เพื่อทดแทน Windows XP ที่มีการใช้งานมายาวนาน โดยมีจุดเด่นตรงที่ เป็นระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนระบบ 64 บิต พร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพในส่วนต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง แต่ระบบปฏิบัติการ Windows Vista มีกระแสตอบรับไม่ดีเลย ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ทรัพยากรระบบสูงและการทำงานค่อนข้างช้า
http://www.techxcite.com/topics/15782/filemanager/windows-vista-help2.jpg


  Windows 7

  อีก 2 ปีถัดมา ทางไมโครซอฟต์ก็ได้ซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows 7  และได้เปิดตัวใช้งานเมื่อปลายปี พ.ศ. 2552 โดยทางทีมงานได้ประกาศว่า ระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะเป็นระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเป็นการเรียกคืนความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
https://redmondmag.com/articles/list/~/media/ECG/redmondmag/Images/introimages2014/140812REDMackieWin7.jpg

Windows 8

ปี พ.ศ. 2555 ทางไมโครซอฟต์ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 8  โดยมีการปรับปรุงรูปโฉมของวินโดวส์ใหม่ทั้งหมด ด้วยอินเตอร์เฟซใหม่ที่ทางไมโครซอฟต์ใช้ชื่อว่า “Metro Interface” ซึ่งคล้ายกันกับ Windows Phone ที่ใช้งานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และยังรองรับจอภาพแบบสัมผัส (Touch Screen)  เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

https://fthmb.tqn.com/vYm-bIUsfo6TF3PsLdU6yLqwQ2E=/768x0/filters:no_upscale()/about/windows-8-57c731a73df78c71b60e50a1.jpg

Windows Server

เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operating System : NOS) จากค่ายไมโครซอฟต์ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะมักใช้งานตามองค์กรทั่วไป สำหรับข้อเด่นของระบบปฏิบัติการเครือข่ายจากค่ายไมโครซอฟต์ก็คือ มีโปรแกรมสนับสนุนมากมาย อีกทั้งการเชื่อมโยงเครื่องลูกข่ายเข้ากับเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นจะง่ายมากหากเครื่องลูกข่ายใช้ระบบปฏิบัติการจากค่ายไมโครซอฟต์เหมือนกัน
http://www.wegotserved.com/wp-content/uploads/2016/09/windows-server.jpg

แมคโอเอส (Mac-OS) 

ระบบปฏิบัติการ Mac เป็นผลิตภัณฑ์จากค่ายแอปเปิลที่ออกแบบมาใช้งานบนเครื่องแมคโดยเฉพาะ เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นจากพื้นฐานระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ โดยอินเตอร์เฟซแบบกราฟิก (GUI) ในรูปแบบหน้าต่างซ้อนๆกัน
http://3.bp.blogspot.com/-AS547m2Na8g/Ua1tI0MDrjI//HgDyLfjIyI0/s1600/mac_osx8.jpeg

ยูนิกซ์ (Unix)

ระบบปฏิบัติการ Unix ได้รับการพัฒนาขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2503 ถูกออกแบบเพื่อใช้งานบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ระดับกลาง เป็นระบบปฏิบัติการประมวลผลแบบมัลติยูสเซอร์และมัลติทาสกิ้ง นอกจากนี้ ระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ระดับไมโครคอมพิวเตอร์จนถึงเมนเฟรม สามารถรันอยู่ภายใต้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ได้ทั้งสิ้น
https://sites.google.com/site/jukkridrenji12/_/rsrc/1447310257905/rabb-ptibati-kar-unix/unix-logo.gif

ลินุกซ์ (Linux)

ลินุกซ์จัดเป็นระบบปฏิบัติการสายพันธุ์หนึ่งของ Unix และยังเป็นระบบเปิด ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำไปปรับปรุงเพื่อแบ่งปันใช้งานบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่า Linux ฉบับดั้งเดิมนั้นจะมีอินเตอร์เฟซแบบ Command Line ก็ตาม แต่เวอร์ชั่นใหม่ๆ ในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนอินเตอร์เฟซมาเป็นแบบ GUI  และสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานฟรีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสำหรับลินุกซ์ประเทศไทย
http://www.nengnengneng.net/wp-content/uploads/2012/09/526.jpg

ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่

ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องพีซี โน้ตบุ๊ก และเน็ตบุ๊ก ส่วนใหญ่จะใช้ระบบปฏิบัติการตัวเดียวกัน แต่สำหรับอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์เคลื่อนที่  แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาต่างๆ จะใช้ระบบปฏิบัติการคนละตัวกัน ที่เรียกว่า ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Operating System) ในขณะเดียวกัน ก็มีระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบมาเป็นกรณีพิเศษ เพื่อนำมาใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยเฉพาะ เช่น Windows Phone, Android, Apple IOS, BlackBerry, HP webOS, Symbian เป็นต้น
http://www.technointrend.com/wp-content/uploads/2013/05/3mobile_os.jpg


อ้างอิง
http://www.nengnengneng.net/archives/3772
http://www.smilebkos.com
http://www.technointrend.com
http://melanies-miene.blogspot.com/
http://www.wegotserved.com/
http://www.pcadvisor.co.uk/how-to/windows